วัยทอง หรือ ภาวะฮอร์โมนผิดปรกติคืออะไร?
วัยทองไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง แต่เป็นภาวะอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ ต้องเจอ ภาวะนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่อยู่ในวัยกำลังจะหมดประจำเดือน ซึ่งอายุน่าจะ 40 ขึ้นไปแล้ว แต่ในบางครั้ง อาจเกิดกับผู้หญิงวัยเพียงแค่ 35 ได้ ถ้าร่างกายอ่อนแอ หรือมีความเครียด ความกดดันอารมณ์เยอะๆ หรือบางครั้ง เกิดจากทางพันธุกรรม ซึ่งมีผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเพศหญิง ผิดปรกติ และมีผลกระทบต่อร่างกาย และจิตใจหลายอย่าง เช่น อาจเกิดอาการหงุดหงิดง่าย ขึ้โมโห เจ้าอารมณ์ หรืออาจเกิดอาการซึมเศร้า ขี้กังวล ในบางคนอาจมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และรอบเดือนมักจะมาผิดปรกติมากๆ ที่สำคัญผิวหนังจะหย่อนยาน ไม่เต่งตึง เหมือนสาวแรกรุ่น
อาการ วัยทอง นั้น แม้ว่าจะไม่มีอันตรายโดยตรง แต่ภาวะวัยทอง กลับเป็นต้นเหตุให้เกิดโรคแทรกซ้อนหลายอย่าง อย่างที่คิดไม่ถึงได้ เดี๋ยวเราจะมาดูกันว่า ภาวะวัยทองส่งผลอย่างไรกับเราบ้างและ มีวิธีสังเกต และ ป้องกันรักษาอย่างไร
แต่ก่อนอื่น ดิฉันมีเรื่องจริงจะบอก เป็นเรื่องที่น่าอาย มากๆ
ดิฉัน ทาน ฟอร์เก็ต มี น็อต เป็นประจำเพื่อเพิ่มและรักษาระดับฮอร์โมนในร่างกาย เพราะฮอร์โมนเพศหญิง เป็นปัจจัยหลักสำคัญในการกำหนดรูปร่าง ความเป็นสาว ความเต่งตึงต่างๆ ปัจจุบัน มีแต่คนชมว่าดิฉัน ทำไมดูเปล่งปลั่งขึ้นจัง ไม่เหมือนคนอายุ 38 เลย เหมือนเพียง 20 ปลายๆ เท่านั้น
ส่วนตัวดิฉันเอง เมื่อก่อนมีอารมณ์หงุดหงิดบ่อย อาการที่ว่ามานั้น ใช่เลย ไม่ว่าจะเป็นอาการนอนไม่หลับ เหงื่อออกตอนกลางคืน บางทีก็ซึมเศร้าโดยไม่ทราบสาเหตุ ตอนแรกคิดว่าเราผิดปรกติหรือเปล่า หรือเราต้องไปโรงพยาบาลบ้า แต่ก็รับไม่ได้ ก็ได้แต่ศึกษาหาความรู้จากในโลกไซเบอร์ จนมาพบคำตอบว่าส่งสัยเราคงประสบภาวะ วัยทอง หรือ ภาวะฮอร์โมนผิดปรกติ แน่แล้ว
ตอนนั้นบอกตรงๆ เลย ลูกๆ กระเจิงหมด ไม่ต้องพูดถึงสามีเลยค่ะ แต่ใจจริงก็ไม่ได้อยากเป็นอย่างนั้นเลยนะ ทั้งๆ ที่เค้าก็ดี กับเราตลอดแต่ไม่รู้เป็นไง มันหงุดหงิดไปหมด เชื่อไหมค่ะ แค่เค้าเข้าบ้านมา เราก็หงุดหงิดแล้ว หวิดๆ จะเลิกกันก็หลายครั้ง
แต่ปัจจุบันไม่มีแล้วค่ะ ตั้งแต่มาเจอผลิตภัณฑ์เสริมอาหารฟอร์เก็ต มี น็อต และได้ลองทานดู ตอนนั้นคิดว่า เอายังไงก็เอา ลองดู ไม่เห็นเสียหาย กินกันยังมากกว่านี้ ถ้าทานแล้ว ช่วยทำให้ครอบครัวเรากลับมาสงบสุขเหมือนเดิม ได้ก็น่าจะลองดู
หลังจากทานแล้ว รู้สึกได้เลยว่าใจเย็นลง ความหงุดหงิดไม่รู้หายไปไหนหมด ทำให้ดิฉันรู้เลยว่า ฮอร์โมนในร่างกายมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก นอกจากจะใจเย็นลงแล้ว ยังพบว่าผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น อย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ สามีชมบ่อยๆ ว่าทำไมเธอยิ่งแก่ยิ่งสวยนะ (ก็ไม่อยากจะบอกว่า ฉันก็มีดีเหมือนกัน อิอิ)
อีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อก่อนดิฉันมักจะมีตกขาวตลอดเลย มาเยอะมาก ไม่รู้มาจากไหน แล้วก็มีกลิ่นภายใน บางครั้งก็คันด้วย เคยหายามาทาน ไปปรึกษาหมอ ด้วย ก็หายนะคะ แต่หายเป็นพักๆ พอไม่ทานยาก็กลับมาเป็นอีก กลุ้มใจมาก มีความรู้สึกเหมือนช่องคลอดไม่ค่อยแข็งแรง ตอนแรกก็คิดว่า คงเป็นเรื่องที่แก้ไขไม่ได้ เพราะเราเคยผ่านการมีบุตรมาแล้ว จะทำไงได้ ก็เพราะเจ้าตัวเล็กนี่ไง เชื่อไหมค่ะ บางทีกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เลย ปัสสาวะเล็ดออกมาก็มี แล้วก็ เวลามีอะไรกับแฟน บางทีก็มีลมออกมาจากช่องคลอดด้วย อายก็อาย ยิ่งช่วงที่เค้ากำลัง ออรัล ด้วยแล้ว หมดอารมณ์กันไปเลย จริงๆ ดิฉันก็เข้าใจนะคะ ว่าเราต่างคนก็ต่างมีอายุแล้ว แต่ก็ทำให้ดิฉันขาดความมั่นใจไปมากเหมือนกัน แต่ตั้งแต่ทาน fin lovers ฟิน เลิฟเว่อร์ อาการที่เล่ามาก็ค่อยๆหาย เริ่มจากตกขาวก่อนเลย
ตอนทานใหม่ๆ รู้สึกได้เลยว่า ตกขาวลดลงไปมาก พอตกขาวลดลง กลิ่นที่ไม่ต้องการก็หายไปด้วย อาการคันก็ไม่มี หลังจากทานได้ประมาณเดือน เห็นจะได้ อาการปัสสาวะเล็ด ก็เหมือนจะไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ จนมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ แฟนบอกว่า “ฟิตขึ้นนะเรา” ดิฉันงี้ หน้าชาไปหมดเลย อาการลมออกจากช่องคลอดก็หายไปด้วย นี่แหละ เค้าถึงว่า ฮอร์โมนตัวเดียว เป็นเหตุ
ดิฉันหวังว่าประสบการณ์บางส่วนของดิฉัน คงเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะค่ะ ขอบคุณ #finlover.com มากๆ ค่ะ
ข้างล่างเป็นบทสัมภาษณ์ของดาราท่านหนึ่ง ขออณุญาติเอามาไว้ที่นี่เพื่อเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านด้วยครับว่าภาวะฮอร์โมนผิดปรกติ หรือวัยทองนั้นส่งผลอย่างไรบ้าง
- คุณปรินดา บุญวงษ์ นักแสดง/พิธีกร
- พญ.กิตติกานต์ นิ่มสุวรรณ สูตินรีแพทย์
คุณช่อผกา : ผู้หญิงในยุคปัจจุบันนี้ มัก มีปัญหาเรื่องของภาวะฮอร์โมนเพศผิดปกติกันมาก ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงแบบไม่ปกติ เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยมากมาย ตั้งแต่ช็อคโกแลตซีสไปจนถึงมะเร็ง วันนี้เราจะมาคุยกับผู้ที่ประสบปัญหานี้นะคะ ซึ่งคุณผู้ชมก็รู้จักเธอดีค่ะ เพราะว่าเธอเป็นทั้งดีเจ และพิธีกรสาวสุดเซ็กซี่จากรายการตีสิบ คุณนุช ปรินดา บุญวงษ์ พร้อมทั้งสูตินรีแพทย์ พญ.กิตติกานต์ นิ่มสุวรรณ สวัสดีค่ะ ได้ข้อมูลมาว่า น้องนุชมีปัญหาเรื่องฮอร์โมน มีภาวะของการมีประจำเดือนนานมาก
คุณปรินดา : นานมากค่ะ ตั้งแต่วัยรุ่นเริ่มเป็นก็เป็นแบบเป็นสิบวันคุณช่อผกา : หมายถึงว่า คนอื่นเขามีกันแค่ 3-7 วัน
คุณปรินดา : บางคนแค่ 5 วันก็จะน้อยแล้ว แต่ของนุชวันที่ 7 ยังเป็นเหมือนคนอื่นที่เขายังเยอะๆ อยู่ค่ะ จนวันที่ 10-12 ถึงจะค่อยๆ น้อย พอหลังจากนั้นเคยเป็นนานติดต่อกันค่ะ แบบเดือนชนเดือนค่ะ ประมาณ 3 เดือนก็คือ เป็นเยอะๆ 7 วัน วันที่ 10-12 เป็นจางๆ แต่ก็เป็นตลอดค่ะคุณช่อผกา : พี่ใช้คำนี้ได้ไหม เคยมีประจำเดือน 90 วัน
คุณปรินดา : ใช่ค่ะ ไปชนเดือนที่มาเยอะ
พญ.กิตติกานต์ : ของ คุณนุชเป็นภาวะที่เรียกว่า เลือดออกผิดปกติ สาเหตุมีหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องความผิดปกติของฮอร์โมนภายในร่างกาย หรือความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ภายในสตรี เช่น ตั้งแต่ปากมดลูก อาจจะมีติ่งเนื้อที่ปากมดลูก หรือภายในโพรงมดลูกเอง อาจจะมีการหนาตัวผิดปกติ หรือมีติ่งเนื้อข้างใน หรือมีเนื้องอกที่ตัวมดลูก หรือมีเนื้องอกที่รังไข่นะคะคุณช่อผกา : ที่ดิฉันบอกว่า อันนี้มันจะมีความเจ็บป่วยเกิดขึ้นตั้งแต่เป็นซีสไปจนถึงมะเร็ง แต่ละอันจะมีอาการต่างกันยังไงเหรอค่ะ
พญ.กิตติกานต์ : เกี่ยวกับเรื่องซีสกับมะเร็งขึ้นอยู่กับสาเหตุนะคะ ปกติแล้วเราสามารถแบ่งได้ตามช่วงอายุของคนไข้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ ถ้าในวัยรุ่นที่เริ่มมีประจำเดือนใหม่ๆ ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากความผิดปกติของระบบฮอร์โมนภายในร่างกาย ต่อมใต้สมองกับรังไข่ยังทำงานไม่สัมพันธ์กัน ทำให้การสั่งงานมาที่รังไข่ทำงานผิดปกติ ซึ่งก็ไปมีผลต่อเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้มีความผิดปกติเกิดขึ้น มีเลือดออกผิดปกติ หรือในวัยเจริญพันธุ์ก็จะมีภาวะของการตั้งครรภ์แทรกซ้อนเข้ามา หรือมีความผิดปกติในแง่ของเรื่องติ่งเนื้อธรรมดาที่ปากมดลูก หรือเป็นติ่งเนื้อของตัวโพรงมดลูก เป็นเนื้องอก เป็นซีสที่รังไข่ แต่พบน้อยนะคะที่จะเป็นมะเร็ง ถ้าอายุต่ำกว่า 30 ปีนะคะ แต่ถ้าอายุเกิน 30 ปีขึ้นไป พวกมะเร็งเราก็ควรจะต้องคิดถึงนะคะ ถ้าพบคนไข้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติคุณปรินดา : ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันก็เลยไปตรวจว่าเป็นอะไร
คุณช่อผกา : ตรวจภายในเลยหรือเปล่าค่ะ
คุณปรินดา : ใช่ค่ะ คุณหมอแนะนำว่าลองทานยาคุม แล้วมันก็สามารถที่จะช่วยได้ คือ ปวดท้องประจำเดือนน้อยลง เริ่มมีประจำเดือนน้อยลง
พญ.กิตติกานต์ : สาเหตุสำคัญของการที่ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ ก็มีจากความเครียด หรือจากอาหารการกินก็จะมีผลค่อนข้างมากคุณช่อผกา : บางคนบอกว่า อาหารที่เลี้ยงสัตว์ เช่น อาหารเลี้ยงไก่ จะฉีดฮอร์โมนเข้าไปในไก่ เรากินไก่ที่มีฮอร์โมนเข้าไป ฮอร์โมนก็เลยผิดปกติ มันเกี่ยวกับหรือไม่ค่ะ
พญ.กิตติกานต์ : ก็อาจจะมีผลส่วนหนึ่ง ที่เขาบอกว่าพวกเนื้อสัตว์ เมื่อเรารับประทานเข้าไปในร่างกาย ส่วนหนึ่งจะเปลี่ยนเป็นไขมัน ไขมันจะเป็นตัวต้นกำเนิดของตัวฮอร์โมน ซึ่งอาจจะทำให้มีฮอร์โมนมากขึ้น หรืออาหารทอด มันๆ อะไรพวกนี้ ก็จะเปลี่ยนไปเป็นคลอเลสเตอรอล ซึ่งคลอเลสเตอรอลตัวนี้จะเป็นตัวต้นกำเนิดของฮอร์โมนเพศหญิงนะคะคุณช่อผกา : แสดงว่าถ้าไม่มีเลยก็ไม่ได้ มีมากไปก็ไม่ดี ต้องพอดีถึงจะดีที่สุดนะคะ ที่นี้คุณนุชมี 90 วันแบบนี้ก็เลือดหมดตัวซิค่ะ
พญ.กิตติกานต์ : มันก็ค่อยๆ ออก แล้วมียารับประทาน พวกธาตุเหล็กอะไรเข้าไปทดแทนนะคะ ก็อาจจะทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ ซึ่งเป็นผลเสียต่อร่างกายคุณช่อผกา : เป็นมั้ย
คุณปรินดา : เป็นค่ะ เป็นตั้งแต่ตอนนั้น เหมือนไม่มีแรงค่ะคุณช่อผกา : ถ้าผิดปกติขนาดนี้ ถ้าถึงเวลาจะมีน้องคงต้องตรวจกันใหญ่นะคะ
พญ.กิตติกานต์ : ใช่ค่ะ อาจจะมีปัญหาว่า อาจจะมีบุตรยากหรืออะไรพวกนี้นะคะ
คุณปรินดา : พอทานยาก็กลัวว่าทานติดต่อกันมันจะไม่ดีก็จะหยุดไปเดือนหนึ่ง แล้วเริ่มทานใหม่ ก่อนหน้าที่จะไปหาคุณหมอ ประมาณช่วงมีนาหยุดยา และเปลี่ยนยาที่เป็นฮอร์โมนต่ำคุณช่อผกา : การที่เราไม่ได้ทานยาคุมกำเนิดตามกำหนดที่ว่า มีช่วงพักผ่อน มีช่วงเปลี่ยนเป็นฉีด เปลี่ยนเป็นกิน เปลี่ยนยี่ฮ้อ มีผลหรือไม่ค่ะ
พญ.กิตติกานต์ : การรับประทานยาคุมกำเนิด ถ้าเกิดว่าเรามีการเปลี่ยนกะทันหัน ก็อาจจะมีผลทำให้เกิดปัญหาเลือดออกผิดปกติตามมา ถ้าเริ่มต้นด้วยการกินฮอร์โมนก็คิดว่าน่าจะต้องกินให้สม่ำเสมอ เพื่อจะดูว่าสาเหตุมาจากอะไรถ้าจะเปลี่ยนต้องเปลี่ยนตามรอบ หรือเมื่อคบเดือนค่ะ หลัง จากที่ยาคุมหมดจะมีประจำเดือนมา ถ้าจะเปลี่ยนยี่ฮ้อ เราก็ค่อยไปเริ่มอันใหม่ เพราะยาคุมแต่ละยี่ฮ้อ ระดับฮอร์โมนเอสโตเจนในเม็ดยาจะไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอาจจะทำให้มีปัญหาคุณช่อผกา : สำหรับคุณนุช คุณหมอฟังอาการแล้วต้องทำอะไรต่อค่ะ
พญ.กิตติกานต์ : สำหรับคุณนุชคงต้องตรวจเพิ่มเติมค่ะ ว่าอะไรเป็นสาเหตุให้มีเลือดออกผิดปกติมากมายขนาดนั้น ถ้ามีการตรวจภายในก็คงจะดูเรื่องเนื้องอกของอวัยวะสืบพันธุ์ภายในสตรี ตั้งแต่มีติ่งเนื้อหรือเปล่า หรือมีเนื้องอกหรือเปล่า มีซีสที่รังไข่หรือเปล่า อาจจะประกอบกับการดูอัลตราซาวด์นะคะ อัลตราซาวด์ก็สามารถบอกเราได้ อาจจะเป็นฮอร์โมนซี่งยังทำงานผิดปกติ อาจจะต้องรักษาด้วยการกินยาคุมกำเนิดแบบที่รับประทานอยู่ และมีการตรวจติดตามอีกทีคุณช่อผกา : เราก็ทราบว่า หลายอย่างเกิดขึ้นจากระดับฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ เพราะฉะนั้นต้องให้ความรู้กันนิดหนึ่งค่ะ คุณหมอค่ะ ฮอร์โมนเพศหญิง ที่มีอยู่ในผู้หญิงทุกคนในโลกนี้ มันมาจากไหน แล้วทำไมมันถึงแบบแกว่งไปแกว่งมา จนทำให้เราเจ็บป่วยค่ะ
พญ.กิตติกานต์ : ฮอร์โมนเพศหญิง ก็คงจะเริ่มจากตั้งแต่ระดับสมอง เราจะมีต่อมที่อยู่ใต้สมอง เรียกว่า ต่อมใต้สมอง หรือ Pituitary gland ตัวนี้จะมีหน้าที่สั่งงานมาที่รังไข่ ให้รังไข่ผลิตไข่ ระหว่างที่ผลิตไข่จะมีการสร้างฮอร์โมนออกมาตัวหนึ่ง เราเรียกว่า เอสโตเจน (Estogen) เอสโตเจนจะมีผลที่เยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้น พอผ่านไประยะหนึ่ง ประมาณ 14 วัน จะมีการตกไข่ หลังจากไข่ตกจะมีฮอร์โมนอีกตัวหนึ่งตามออกมา เพื่อทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่หนามากเกินไป พอไข่เจริญเติบโตไประยะหนึ่ง ก็จะมีการฝ่อ ถ้าไม่มีการปฏิสนธิ ก็จะฝ่อไป ตัวไข่ที่ฝ่อไปจะทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายลดลง พอลดลงก็จะมีผลที่เยื่อบุโพรงมดลูก ไม่มีฮอร์โมนมาคอยดูแลก็จะมีการหลุดลอกออกมา ก็กลายเป็นประจำเดือนปกติของผู้หญิงคุณช่อผกา : คุณนุชฟังอย่างนี้แล้วรู้สึกยังไง
คุณปรินดา : สงสัยหนูจะมีมากไปก็เลยออกมามากกว่าปกติคุณช่อผกา : สำหรับคนไข้คนอื่นๆ ด้วยนะคะคุณหมอ ถ้ามีประจำเดือนมากกว่าปกติ เขาจะต้องสังเกตยังไง และระวังอะไรต่อค่ะ
พญ.กิตติกานต์ : ประจำเดือนที่ปกติ เราถือว่าถ้ามาครบ 22-35 วันในหนึ่งรอบ เราถือว่าปกติ และมาครั้งหนึ่งไม่เกิน 7 วัน ถ้ามาเกิน 7 วัน หรือมาถี่กว่านี้ หรือมาห่างกว่านี้นะคะ เราถือว่าผิดปกติ ตรงนี้ควรจะพบแพทย์ เพื่อรับคำปรึกษาและตรวจหาสาเหตุค่ะคุณช่อผกา : ใช่มั้ย รู้สึกกลัวมั้ยค่ะ
คุณปรินดา : กลัวค่ะ โรคเยอะไปหมดเลย โรคของผู้หญิงเยอะมากเลยนะคะคุณช่อผกา : คุณหมอค่ะ เกิดมาเป็นหญิงแล้วจะดูแลยังไง ให้ตัวเรามีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดค่ะ
พญ.กิตติกานต์ : การดูแลสุขภาพของเราก็คงจะเป็นการลดความเครียด ออกกำลังกาย เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดของที่มีไขมันสูง กาแฟ หรือพวกคาเฟอีนต่างๆ หรือแอลกอฮอล์พวกนี้ควรจะงดค่ะคุณช่อผกา : ยามที่เราเจ็บป่วย นอกจากเราจะไม่สบายตัวแล้ว เรายังรู้สึกไม่มั่นคงในจิตใจ เพราะมีความกลัวค่ะ ความกลัวแท้จริงแล้วมาจากการไม่รู้ เราไม่ใช่แพทย์นะคะ คงไม่รู้ เราต้องหาผู้รู้ที่จะช่วยให้ความกระจ่างในความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น ความกลัวก็จะหายไป แล้วร่างกายก็จะได้รับการดูแลรักษาค่ะ ก็อยากให้คุณผู้ชมทุกท่านดูแลร่างกายตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อที่จิตใจจะได้ดีตามมานะคะ วันนี้ขอบคุณ คุณนุชและคุณหมอมากที่ให้ความกระจ่าง
ที่มา: รายการ ไฮ-คิว ไลฟ ออกอากาศเมื่อ: 18 กันยายน 2548 สถานีโทรทัศน์: ช่อง 9 โมเดิีรน์ไนน์ทีวี
ใส่ความเห็น